กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุเรือนจำกลางราชบุรี เติมคุณภาพชีวิต – เตรียมคืนสู่สังคม

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.30 น. นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุเรือนจำกลางราชบุรี เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุต้องราชทัณฑ์ เเละส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุต้องราชทัณฑ์ ให้ผู้สูงอายุต้องราชทัณฑ์ได้เตรียมความพร้อมในการออกสู่สังคมเพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 100 คน พร้อมให้กำลังใจนักเรียนผู้สูงอายุต้องราชทัณฑ์ในเรือนจำกลางราชบุรี และรับชมการแสดงบาสโลปของโรงเรียนผู้สูงอายุ การแสดงนาฏมวยไทย โดยมี นายอาคม ภูศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีเป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางสมพิศ หลวงแจ่ม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี นางสาวพีรญา นพรัตน์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน นางสาวอัญชลี จิตรเสนาะ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ นางสาวสุทธิรัตน์ โทชนบท ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ เข้าร่วม ณ ศาลาร่วมใจ เรือนจำกลางราชบุรี

จากนั้นเยี่ยมชมบูธกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้สูงอายุทั้ง 5 มิติ ได้แก่ บูธฝึกวิชานวดแผนไทย บูธศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซี บูธฝึกวิชาชีพงานหัตถกรรมจากกลุ่มสตรี by บ้านบึง บูธส่งเสริมสุขภาพ โดยอาสาสมัครราชทัณฑ์ กลุ่มตำบลเขาชะงุ้ม บูธความรู้ด้านกฎหมาย โดยสภาทนายความจังหวัดราชบุรี บูธแสดงผลงานชมรม ทูบี นัมเบอร์วัน เรือนจำกลางราชบุรี บูธแสดงผลงานสถานพยาบาล โครงการราชทัณฑ์ปันสุข บูธศูนย์ CARE ให้ความรู้เรื่องภัยที่แฝงอยู่ในสื่อโซเชียลมีเดีย

โดยการเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุในเรือนจำนั้น เป็นความร่วมมือระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์ เเละกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงอายุต้องราชทัณฑ์ เพื่อบูรณาการงานด้านผู้สูงอายุระหว่างหน่วยงาน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดูแลผู้ต้องขังอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาที่เหมาะสมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม เพื่อให้สามารถปรับตัวและเห็นคุณค่าในตัวเอง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในเรือนจำได้อย่างมีความสุข รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสุขภาพ และด้านสภาพแวดล้อม เพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างปกติสุข