ผส. ร่วมประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570
ผส. ร่วมประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570
วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมพิธีเปิดเเละรับฟังการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ เเละคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ มอบหมายให้ นางวรรภา สุขคง รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้อำนวยการกอง/กลุ่ม ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ เข้าร่วมรับฟังการการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณฯ ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom meeting ณ ห้องประชุมโป๊ยเซียน 707 เสริมทรัพย์ ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2570 วงเงิน 3,788,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 จำนวน 7,400 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 0.2 % โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศ 5 ด้าน ดังนี้
1. ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลจะดำเนินมาตรการให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเป็นระบบ โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นควบคู่กับการวางแผนเศรษฐกิจในระยะยาว ตามนโยบาย Quick Big Win ขณะที่ การลงทุนเพื่ออนาคตมีการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างความยั่งยืน ยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตบนเส้นทางเศรษฐกิจสีเขียว เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร รวมถึงการออกมาตรการด้านการท่องเที่ยว
2. ด้านการต่างประเทศ รัฐบาลกำลังเร่งเจรจาเพื่อแก้ไขผลกระทบจากสงครามการค้า รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทย ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD ให้แล้วเสร็จภายในปี 2573 รัฐบาลยังดำเนินนโยบายต่างประเทศเชิงรุกที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและสร้างบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก
3. ด้านสังคม รัฐบาลจะจัดการอย่างเร่งด่วนกับปัญหาสแกมเมอร์หรือการหลอกลวงทางเทคโนโลยี การพนัน อาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติด รวมถึงการแก้ไขปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง และพวกพ้อง โดยยึดหลักนิติธรรม และความโปร่งใส เพื่อยุติการคอร์รัปชัน
4. ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจะพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยอุทกภัยเป็นประจำ หรือพื้นที่มีความเสี่ยงสูงด้านหมอกควัน พร้อมเร่งเยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบภัยให้กลับสู่สภาพวิถีชีวิตปกติให้เร็วที่สุด
